วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

ไอบ้ากับยาวิเศษ ตอนที่ 1

ไอบ้าเป็นเด็กน้อยที่คิดอยู่เสมอว่าโลกนี้สมบูรณ์แบบไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกอย่างในโลกนี้เธอสามารถไขว้คว้าหามาได้เพียงแค่ใช้บัตรวิเศษใบเล็กๆ ซื้อมันมา ไม่ว่าที่ใดล้วนยินดีต้อนรับบัตรวิเศษและเอาอกเอาใจเธอเป็นอย่างดี หรือแม้แต่ในสถานที่บางแห่งที่เธอคิดว่ามันช่างต่ำต้อยเสื่อมโทรมเสียเหลือเกิน (ที่เธอคิดเช่นนั้นเพียงเพราะพวกเขาไม่รับบัตรวิเศษของเธอนั่นเอง) แต่เพียงแค่เธอใช้บัตรวิเศษเสียบเข้ากับตู้วิเศษ เงินจำนวนมหาศาลก็พร้อมจะออกจากตู้วิเศษมารับใช้สนองความต้องการของเธออย่างไม่รู้จบสิ้น และแน่นอนว่าไม่มีใครไม่ชอบเงิน แม้แต่ในที่ๆกันดารที่สุดก็ตาม

ไอบ้าใช้บัตรวิเศษและเงินของเธอซื้อทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอต้องการนับตั้งแต่เธอมาถึงโลกใบนี้ พ่อแม่ของไอบ้าตายไปตั้งแต่เธอยังเด็ก ปล่อยให้เธอสู้ชีวิตตามลำพังพร้อมกับมรดกที่พวกเขาทิ้งไว้ให้ เธอจึงเดินทางจากดาวบ้านเกิดมายังโลกที่ซึ่งเงินทองของเธอจะมีค่าอย่างมหาศาล ทุกวันนี้ไอบ้ามีทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน พ่อแม่บุญธรรม (ที่เธอจ้างมา) รถ เสื้อผ้า ของเล่นของใช้ อาหาร สัตว์เลี้ยง และเร็วๆนี้ เธอกำลังวางแผนหาซื้อแฟนสักคนในวันที่เธออายุครบ 15 ปี

" แม่ดูนี่สิ ผู้ชายหล่อๆทั้งนั้นเลย" ไอบ้าชี้ให้แม่ดูโฆษณาบริษัทจัดหาคู่อย่างตื่นเต้นจนตัวสั่นริกๆ

"จะเลือกผู้ชายมาเป็นแฟนซักคน ต้องพิถีพิถันหน่อยนะไอบ้า สมัยนี้ผู้ชายเกาะผู้หญิงกินมีเยอะแยะไป"

"หนูจะเลือกแบบไหนดีนะ เอาแบบหล่อล่ำ หรือเซอๆโทรมๆ ดีเนี่ย กำลังอินเทรนเลย"

ไอบ้าตื่นเต้นไปกับการดูโฆษณาจัดหาแฟนอย่างเพลิดเพลิน แต่น่าเสียดายที่เธอยังไม่รู้ว่ามีบางสิ่งในโลกที่เงินซื้อไม่ได้ และไม่มีที่ใดขายมัน

ทุกครั้งที่ไอบ้าไปจับจ่ายซื้อของ เธอจะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง เธอจะไม่ลืมถามเจ้าของร้านเสมอว่า "นี่ดีที่สุดในร้านแล้วใช่มั้ย" และแน่นอนที่เจ้าของร้านจะตอบกลับมาว่า "ใช่แล้วครับคุณไอบ้า คุณนี่ตาถึงและใจถึงจริงๆ" ไอบ้าจะเลือกซื้อสินค้าอย่างพิถีพิถันทุกครั้งและสุดท้ายเธอจะเลือกชิ้นที่แพงที่สุด อเนกประสงค์ที่สุด สวยงามที่สุด และทันสมัยที่สุดไปครอบครอง ส่วนเรื่องความคงทนนั้นเธอไม่ค่อยคำนึงถึง เพราะยังไงเธอก็ใช้มันไม่ถึงเดือนหรอก เธอต้องเป็นผู้นำความล้ำสมัยอยู่ตลอดเวลา จะให้ทนใช้ของเก่าๆอยู่ได้อย่างไร?

ไอบ้าอาศัยอยู่บนโลกนี้ได้ 7 ปีแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่เหงาอีกต่อไป เพราะเธอมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง มีของเล่นเพียบพร้อม และมีพ่อแม่บุญธรรมคอยดูแล (ตามคำสั่งของเธอ และเธอก็ไม่ลืมจ่ายเงินเดือนให้ทุกเดือน) แต่ไอบ้าก็ยังรู้สึกว่าเธอยังขาดอะไรไปบางอย่าง บางครั้งในยามดึกสงัดเธอจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา และจู่ๆก็อยากร้องไห้ แม้ว่าจะมีคนอยู่รอบตัวเธอมากมาย แต่ไอบ้าก็ยังรู้สึกเหงาอย่างประหลาด เธอเริ่มรู้สึกกระวนกระวายว่าเธอไม่สบายเป็นโรคร้ายแรงอะไรหรือไม่ ไอบ้าจึงเริ่มออกตระเวนตามหาหมอที่มีชื่อเสียงทั่วโลกเพื่อมารักษาเธอ...

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วิธีง่ายๆคลายโลกร้อน

ตอนนี้ผู้คนตื่นตัวเรื่องโลกร้อนกันมากขึ้น ซึ่งนับว่าน่าดีใจแทนโลกที่น่าสงสารที่โดนเราปู้ยี้ปู้ยำมาหลายศตวรรษ แต่ในทางกลับกันหัวข้อเรื่อง "โลกร้อน" ก็กลายเป็นเครื่องมือหากินและสร้างภาพของใครหลายๆคนที่ทำเป็นห่วงใยภาวะโลกร้อน ที่พยายามสรรหาโครงการออกมามากมายแต่ก็ไม่ได้ยั่งยืนเท่าไหร่ แค่เอาของมาตั้งโชว์ จัดนิทรรศการ แจกใบปลิวและแจกของที่ว่ากันว่าช่วยลดโลกร้อนอย่างมีนัยสำคัญ เช่นถุงผ้า แต่ถ้าคนไม่เห็นความสำคัญของมันก็ไร้ประโยชน์

การจัดบอร์ด จัดนิทรรรศการ อธิบายสารพัดวิธีลดโลกร้อน แต่ถ้าคนจัดงานไม่เอาความรู้เหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่เอามาใช้ในชีวิตประจำวัน หรือไม่แม้แต่ใช้ในโครงการลดโลกร้อนของเขา จะมีประโยชน์อะไรล่ะ ลองสังเกตดูดีๆ ข้าวกลางวันที่เขากินกันใส่กล่องโฟมรึเปล่า วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้จัดงานอีกล่ะใช้อะไรกัน แล้วพวกอุปกรณ์ที่จัดนิทรรศการพวกนั้น เสร็จงานแล้วมันจะมีชะตากรรมยังไง กลายเป็นกองขยะกองโตอีกกองหนึ่ง หรือจะถูกเอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นๆต่อ ? โครงการพวกนี้ควรจะเป็นการ "รณรงค์ลดโลกร้อน" หรือเป็นการ "เพิ่มโลกร้อน" กันแน่

ดังนั้นการรณรงค์ลดโลกร้อนจริงๆ ไม่ต้องอาศัยเงินทุนเยอะเลย ขอแค่ให้มันซึมซับอยู่ในสายเลือด จะคิดจะทำอะไรในชีวิตประจำวันก็คิดถึงโลกไว้ก่อน ไม่ใช่แค่ทำเป็นแฟชั่นตามกระแส วันนี้เลยเสนอวิธีลดโลกร้อนง่ายที่ใครๆก็ทำได้ ถึงแม้จะเล็กน้อยแต่ถ้าทุกคนช่วยกันก็จะเกิดผลที่ยิ่งใหญ่ได้

1. กินข้าวให้หมดจาน เพราะกว่าจะผลิตข้าวมาได้ต้องใช้พลังงานมาก และการปลูกข้าวก็ทำให้เกิดแก๊สมีเทนที่ทำให้โลกร้อนได้ ดังนั้นจึงควรกินอย่างคุ้มค่าอย่าให้เหลือ ถ้าเป็นคนกินน้อยก็ตักแต่พอดีกิน หรือบอกคนขายว่าเอาข้าวน้อยๆ ดีกว่ากินข้าวเหลือแล้วเพิ่มขยะให้โลก หรือถ้าเหลือเศษอาหารก็ให้สัตว์เลี้ยงกินก็ได้

2. ประหยัดไฟฟ้าและน้ำ เพราะการผลิตไฟฟ้าและน้ำมีต้นทุน ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบกับโลกแน่ๆไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่น โรงงานผลิตไฟฟ้าบางแห่งต้องมีการเผาผลาญเชื้อเพลิงซึ่งจะเพิ่มแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้โลกร้อน ดังนั้นเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรถ้าไม่จำเป็นก็ปิดซะ อย่าเปิดทิ้งไว้ แอร์ก็ควรจะปิดก่อนออกจากห้องซัก 1 ชั่วโมง ส่วนการประหยัดน้ำก็ง่ายมาก แค่อย่าเปิดน้ำทิ้งไว้ และบางทีก็ใช้วิธีการรองน้ำใส่ภาชนะแทนก็จะช่วยประหยัดน้ำได้

3. ใช้ทรัพยากรทุกอย่าง อย่างคุ้มค่าที่สุด และลดปริมาณขยะ อะไรที่นำกลับมาใช้ประโยชน์ต่อได้ก็ควรใช้ อะไรที่เอาไปรีไซเคิลได้ก็แยกออกต่างหาก (เช่น กระดาษ กระป๋อง ขวดพลาสติก) เอาไปขาย หรือถ้าของมันเก่าแต่ยังพอใช้ได้ แต่เราไม่อยากใช้ก็เอาไปบริจาคก็ได้ เพราะยังมีคนอีกมากที่ต้องการมัน แทนที่จะทิ้งเป็นขยะทั้งหมด

อย่าลืมว่าของทุกอย่างมีต้นทุน นับตั้งตั้งแต่กระบวนการผลิต การบรรจุ การขนส่ง การเก็บรักษา กว่าจะมาถึงมือเรา ให้เราใช้และกิน ต้องใช้ทรัพยากรไปมากเท่าไร ทั้งพลังงาน เชื้อเพลิงและหีบห่อที่ใช้บรรจุ (กระดาษ พลาสติก) ถ้าเราใช้อย่างทิ้งขว้าง จะยิ่งเพิ่มปริมาณขยะให้โลก และเพิ่มปริมาณแก๊สที่เป็นสาเหตุโลกร้อน

4. ใช้บริการขนส่งมวลชนให้มากขึ้น เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงลง ดีกว่าต่างคนต่างขับรถยนต์ส่วนตัวแล้วมารถติดกลางถนน เผาผลาญเชื้อเพลิงโดยไม่เกิดประโยชน์

5. ลดการใช้กล่องโฟม และถุงพลาสติก ถ้าเป็นไปได้ควรนำกลับมาใช้ต่อ แล้วเวลาไปซื้อของถ้าเรามีถุงอยู่แล้ว หรือของไม่เยอะมาก ก็บอกคนขายว่าไม่เอาถุงก็ได้ วิธีง่ายๆแค่นี้ก็ช่วยลดโลกร้อนได้แล้วครับ

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

หยุดการค้ามนุษย์

วันนี้มีเว็บไซต์ดีๆมาแนะนำ เป็นเว็บไซต์ของโครงการ MTV EXIT (ย่อมาจาก End Exploitation and Trafficking) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก USAID เพื่อรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ทราบหรือไม่ว่า ปัจจุบันมีคนประมาณ 2.5 ล้านคนทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ไม่ว่าจะเป็น การถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ใช้เป็นแรงงานทาส และบังคับให้เป็นโสเภณี คนเหล่านี้ขาดอิสระภาพ ถูกทำร้ายร่างกาย ทรมานต่างๆนานา มีสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก และยังไม่ได้รับค่าจ้างตามที่สมควรจะได้ ซึ่งเว็บไซต์ http://www.mtvexit.org/ นี้มีเนื้อหาและเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยมีทั้งสื่อที่เป็นเนื้อหาสาระ สารคดี หนังสั้น สปอตโฆษณา การ์ตูน animation (เรื่อง intersection น่าดูมากครับ โดยมีดาราไทยพากษ์เสียงด้วย คือพลอย เฌอมาลย์ และอนันดา เอฟเวอริ่งแฮม) โดยเนื้อหาเหล่านี้ได้มาจากข้อมูลจริงๆ ซึ่งได้จากคำบอกเล่าของเหยื่อที่ถูกล่อลวง ผู้ค้า ผู้ประกอบการในวงการค้ามนุษย์ ผู้ให้การช่วยเหลือพักพิงแก่เหยื่อ และตำรวจ ซึ่งส่วนใหญ่การล่อลวงไปขาย มักมาในรูปแบบของคนหน้าตาท่าทางน่าเชื่อถือ มาบอกว่ามีงานดีๆให้ทำ และจะพาไปทำงานต่างเมืองหรือต่างประเทศ ซึ่งถ้าหากเราช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ให้คนอื่นๆได้รู้เท่าทัน (รวมทั้งคนใกล้ชิดที่เรารัก) ก็จะช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นรอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อ และยังช่วยยับยั้งวงจรการค้ามนุษย์ได้อีกด้วย

เรามาช่วยกันป้องกัน ยับยั้งและต่อต้านการค้ามนุษย์กันเถอะครับ คิดถึงใจเขาใจเรา เราเองก็คงไม่อยากให้ตัวเองและคนที่เรารักตกอยู่ในสภาพนั้นเช่นกัน ถ้าหากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม เห็นภาพที่แท้จริงของการค้ามนุษย์ว่าเลวร้ายขนาดไหน และขบวนการค้ามนุษย์นั้นยิ่งใหญ่และซับซ้อนเพียงใด ก็เข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.mtvexit.org/ หรือคอยติดตามสื่อเผยแพร่รณรงค์ได้ที่ช่อง mtv ครับ

วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2552

เตือนภัย google adsense

ช่วงนี้คงสังเกตเห็นได้ว่าเว็บไทยมากมาย ทั้งเว็บไซต์ชื่อดัง สรรพเพเหระ เล่าข่าวกระจุกกระจิก โพสรูปสาวสวยๆ เว็บบอร์ดต่างๆ รวมทั้งเว็บ&บล็อก noname ทั้งหลาย (รวมทั้งบล็อกนี้ด้วย) มีโฆษณาแปลกๆติดอยู่ทั่วไป เฟื่องฟูแพร่กระจายเหมือนดอกเห็ดบาน โดยมีข้อความกำกับว่า "โฆษณาโดย google" ถ้าลองสังเกตดูโฆษณาบางอัน จะรู้สึกทะแม่งๆ ว่ามันจาผิดกฏหมายรึป่าวหว่า ทั้งโฆษณาขายคลิปและหนังอย่างว่า และที่เห็นจะๆ กลางเว็บ mthai เลยคือโฆษณาขายยา สำหรับสาวๆที่เผลอตัวเผลอใจไปแล้วป่องขึ้นมา (ตามพรบ. ยา เค้าไม่อนุญาตโฆษณายาแบบนั้นต่อสาธารณชนน่ะ แล้วนี่ยังมาขายกันแบบนี้ยิ่งผิดอย่างชัดเจน) ก็อยากเตือนๆบรรดาเจ้าของเว็บที่ติด google adsense ทั้งหลาย ระวังจะทำผิดกฏหมายโดยไม่รู้ตัว พยายามคัดเลือกบทความอย่าให้มี keyword ที่มันส่อไปทางนั้นแล้วกันนะ มิฉะนั้นอาจได้โฆษณาผิดกฏหมายมาประดับเว็บให้เสียวเล่น ก็ไม่เข้าใจว่าทาง google ไม่คัดสรรโฆษณากันเลยหรือไง หรือว่าเห็นแก่ตังค์มากกว่า เพราะโฆษณาพวกนี้คงดึงดูดความสนใจคนได้มากมาย และทำกำไรได้ดีมิใช่น้อย เหอๆ ว่าแต่กระทรวง ICT มัวทำไรอยู่นะ ^^

กลับมาอีกครั้ง

หลังจากที่วุ่นวายกับชีวิตไปหลายเดือน ตอนนี้ก็(คิดว่าคง)มีเวลามาเขียนบล็อกให้มากขึ้น เพื่อคืนคุณค่าสู่สังคม 55+ เวอร์ไปมั้ยเนี่ย เอาเป็นว่า ก็จะพยายามกลับมาเขียนเรื่อยๆแล้วกันนะ ซักเดือนละ 2 บทความ เหอๆ