วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

กรรมของเหี้ย

วันนี้ขอสวมบทบาทเป็นนักปกป้องสิทธิเหี้ยกันหน่อยหลังจากเห็นเหี้ยถูกทารุณกรรมมานานโดยเฉพาะแถวๆทำเนียบรัฐบาล สมัยนี้คนจะด่ากันทำไมต้องด่าว่าเหี้ย คงเป็นเพราะว่าชาวบ้านเห็นเหี้ยมีนิสัยเป็นนักฉกฉวยโอกาส ชอบขโมยกินสัตว์เลี้ยงชาวบ้าน (บางทีก็เรียกมันว่าตัวกินไก่) กินได้ทุกอย่าง ไม่เลือกว่าจะสดๆหรือเน่าไปแล้ว บางทีก็ไปขโมยไข่ของสัตว์อื่นกิน เปรียบได้กับคนบางคนที่มีนิสัยดังที่ว่ามานี้ เลยด่าคนผู้นั้นว่า "เหี้ย" ซึ่งเหี้ยก็อยู่ของมัน เป็นสัตว์เดียรัจฉาน มีนิสัยแบบนั้นของมัน ต้องลักกินขโมยกินเพื่อความอยู่รอด ไม่ได้มารับรู้ผิดชอบชั่วดีเหมือนมนุษย์ แต่คนเราก็เอาชื่อมันมาใช้เป็นคำไม่สุภาพ มองว่าเหี้ยเป็นตัวอัปมงคลไป แล้ววันดีคืนดีเหี้ยเกิดอยากเปลี่ยนบรรยากาศร่วมรัก ออกมาโชว์กลางแจ้งให้คนได้อิจฉากันบ้าง ก็บังเอิญตรงกับช่วงจัดตั้งรัฐบาล เลยกลายเป็นลางร้ายไปซะนี่ การรวมตัวของพรรคการเมืองหรือคนบางกลุ่มในช่วงเวลานั้นเลยอุปมาเหมือนเหี้ยผสมพันธุ์กัน ซึ่งอันที่จริงแล้วมันก็เป็นสิทธิของเหี้ยที่จะผสมพันธุ์กันไม่ได้เดือดร้อนอะไรใคร ที่น่าเป็นห่วงกว่าก็ควรไปห่วงพวกเด็กนักเรียนนักศึกษาที่สมัยนี้มีแนวโน้มว่าจะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือไม่ก็พระมั่วกับสีกา อันนั้นเป็นปัญหาที่น่าห่วงกว่าเยอะ การเห็นเหี้ยผสมพันธุ์กันน่าจะดีใจมากกว่า ว่ามันกำลังเพิ่มลูกหลานประชากรเหี้ยให้เมืองไทยของเรา เชื่อมั้ยว่าเหี้ยนี่ก็เป็นตัวชี้วัดสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างหนึ่งนะ ที่ใดมีเหี้ยอยู่อาศัยแสดงว่าที่นั่นมีความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นเราควรอนุรักษ์เหี้ยเอาไว้ให้ลูกหลานได้เชยชมมันต่อไป อย่าให้เหลือแต่เพียงรูปถ่าย เดี๋ยวนี้เหี้ยก็หาดูได้ยากขึ้นทุกที อยากเห็นก็ไปดูได้ตามสวนสัตว์เช่นเขาดิน หรือที่มหาวิทยาลัยศิลปากรก็มีเยอะ เพราะที่นั่นเป็นธรรมชาติมาก มีน้ำมีปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ มากถึงขนาดมันมาเดินเล่น นอนเล่นบนถนนก็มี จนโดนรถทับไส้แตก ซึ่งการรังเกียจเหี้ยหรือเอาชื่อเหี้ยมาใช้ในทางที่ไม่ดีก็ยังไม่เท่าไรเพราะเหี้ยมันคงไม่สนใจหรอกว่าคนจะมองมันยังไง แต่ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งสำหรับชะตากรรมเหี้ยผู้น่าสงสารคือ โดนมนุษย์ทารุณกรรม ไล่ยิงหนังสติ๊ก ถูกจับแขวนคอ เอามามัดทรมานเล่น โดนจับกิน (เค้าว่ากันว่าเนื้อเหี้ยอร่อยยิ่งนัก) และที่สำคัญคือมนุษย์ทำลายธรรมชาติ ตัดไม้ทำลายป่า ทิ้งของเสียลงแหล่งน้ำ จนที่อยู่อาศัยของเหี้ยลดน้อยลงทุกที จนในอนาคตอาจเกือบสูญพันธุ์ กลายเป็นสัตว์สงวนไปก็ได้ ใครจะไปรู้ ซักวันหนึ่งขาดเหี้ยไปแล้วเธอจะรู้สึก คนแถวทำเนียบนี่ก็ไม่ค่อยจะแบ่งแยกได้นะว่าตัวไหนคือศัตรูของประชาชนที่แท้จริง คำว่าเหี้ยเป็นแค่คำเปรียบเทียบ ไม่ควรจะไปตีตราว่ามันเลวเหมือนคนที่ถูกด่าว่าเหี้ย อย่าไปอินกับคำปราศรัยบนเวทีให้มากนัก เอาเวลาไปไล่คนที่ควรไล่ก็เหมาะสมดีแล้ว แต่อย่ามาทรมานเหี้ย ไล่ยิงเหี้ยเพื่อความสะใจ ให้มันกลายเป็นเหี้ยรับบาป อย่าให้เหี้ยเป็นที่รองรับอารมณ์คนเลยนะ สงสารมัน ปล่อยให้มันอยู่อาศัยในธรรมชาติอย่างสงบเถอะ ที่จริงแล้วเหี้ยมีอีกหลายชื่อ ไพเราะทั้งนั้น บางทีก็เรียกตัวเงินตัวทอง ชื่อฟังเป็นมงคลดี น่าจะเอามาเป็นสัตว์เลี้ยงประดับร้านค้า แต่คนก็ยังเอามาใช้ด่ากันเหมือนคำว่าเหี้ย บางทีคนก็ด่ากันเองว่าอีดอก เพราะเหี้ยจะมีดอกทองเป็นลวดลายอยู่บนหลังมัน ดูสวยงามน่ารักน่าชัง ส่วนชื่อวิทยาศาสตร์ของมันคือ Varanus salvator อันนี้คนชื่อวรนุชอาจจะสะดุ้ง เพราะดันมาพ้องกันพอดี ไม่รู้คนตั้งชื่อนี้ชื่อคุณวรนุชรึเปล่านะ หรือคนตั้งชื่อเกลียดคนชื่อวรนุชก็ไม่ทราบ ส่วนชื่อภาษาอังกฤษมันคือ Water monitor คงเพราะมันชอบว่ายน้ำเล่น ส่วนทางภาคเหนือกับใต้อาจจะเรียกสัตว์จำพวกนี้ว่าแลน แต่อย่างไรตาม "เหี้ย" ก็น่าจะได้รับการโหวตว่าเป็นสัตว์ที่น่าสงสารที่สุดในประเทศไทย เพราะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเลวไปไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร โดยไม่มีโอกาสให้แก้ตัวเลย ทำไมถึงทำกับเหี้ยด้ายยย...

1 ความคิดเห็น:

yawaiam กล่าวว่า...

เห็นหัวข้อ...สะดุ้งเลย
แต่อ่านไปอ่านมา
ก็น่าสงสารจริง ๆ
ทำไมถึงทำกับเหี้ยด้ายยยยยยยยย